15 สาเหตุ แผลในปากรักษาอย่างไรให้หายเร็ว
แผลในปาก เป็นแผลที่มักเกิดในปาก มักเกิดขึ้นในระหว่างที่เราไม่ระวัง เช่นการเคี้ยวอาหาร และกัดที่กระพุ้งแก้มโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้แต่การแปรงฟันที่ไม่ได้ระวัง มักเกิดที่ช่องปาก กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก ลิ้น เป็นต้น อาจเกิดบาดแผลตามมาและอาจมีปัจัยอื่นๆร่วมอีกด้วย เช่น มีแผลเปื่อยที่แก้ม แบคทีเรีย การใช้ยาบางชนิด ติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งหากเกิดขึ้นไม่ว่ากับเด็กหรือผู้ใหญ่ มักเกิดอาการทรมานมาก เกิดความเจ็บปวด ทรมาน ไม่อยากกินข้าว กินอะไรก็ไม่มีรสชาติ วันนี้ทางเราได้หาคำตอบว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดแผลร้อนในกันคะ และหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของคุณได้
อาการแผลในปาก
มักมีแผลในปาก 1 แผลขึ้นไป มักเกิดการระคายเคืองในปาก หากทานอาหารรส เผ็ด เค็ม เปรี้ยว มักจะสูญเสียรสชาติ มีแผลผุพองที่ริมผีปาก จากการเคี้ยว การแปรงฟัน และปัจจัยอื่นๆ แผลเหล่านี้มักมีขนาดไม่เกิน 5 มม. ส่วนใหญ่มักไม่อันตราย สามารถหายได้เอง 10-14 วัน
แผลในปากสาเหตุมาจากอะไร
- การแปลงฟันที่เเรงเกินไป จนทำให้มีบาทแผลที่ปาก
- การเคี้ยวอาหารโดยไม่ทันระวัง เผลอกัดที่กระพุ้งแก้ม และริมผีปาก การเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งตัว
- การติดเชื้อไวรัส เชื้อรา
- ทานอาหารที่มีรสชาติเปรียว มีกรดมากเกินไป เช่น สัปปะรด มะนาว สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
- ขาด วิตามิน กรดโฟเลต ธาตุเหล็ก วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้จำเป็นต่อร่างกาย
- เกิดความเครียด
- นอนหลับผักผ่อนไม่เพียงพอ
- รับประทานอาหารเผ็ดมากเกินไป
- ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อวัน
- เครื่องมือทันตกรรมต่างๆ เช่น จัดฟัน
- การแพ้อาหาร
- กรรมพันธุจากครอบครัว
- การระคายเคืองจากน้ำยาฆ่าเชื้อ
- เกิดการเสียดสี การระคายเคืองจากฟันปลอม
- การมีประจำเดือน
วิธีการดูแลรักษาแผลในปาก
- ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ อย่างน้อยควรดื่มน้ำให้ได้ 1-2 ขวดใหญ่ หรือ จิบบ่อยๆตลอดทั้งวัน เพราะการดื่มน้ำเยอะจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ระวังการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรส เปรียวจัด เผ็ดจัด และเค็มจัด รวมถึงอากาหที่มีกรดมากเกินไป เพราะอาหารเหล่านี้อาจทำให้แผลหายช้า เกิดอาการแสบร้อนแผลในปาก เหงือก และปากเป็นแผลมากขึ้น
- ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพราะน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอกอฮอล์ จะทำให้เยื่อบุในช่องปากของเราแห้ง และเกิดอาการระคายเคือง เเละเพิ่มบาดแผลมากขึ้น
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ วันละ 4-5 ครั้งต่อวัน
- รักษาสุขภาพของช่องปาก ทาเจลเพื่อรักษาแผลให้หาย
- ควรเลือกทานอาหารที่อ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย เช่น โยเกิร์ต ข้าวต้ม แกงจืด ไข่ตุ๋น
- การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญ ควรนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมง
- ความเครียด ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ พยายามไม่เครียด ฟังเพลง ดูทีวี ลืมเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด ทำให้ชีวิตมีความสุข
- แปรงฟันอย่างนุ่มนวน ใช้แปรงสีฟันที่อ่อนนุ่ม และใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้งต่อวันหลังอาหาร
- ทาเจลฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ บริเวณที่มีแผลในปาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ สามารถทำลายเนื้อเยื่อในปากเรา
- งดการสูบบุหรี่ เพราะควันของบุหรี่ สามารถทำลายเนื้อเยื่อในช่องปาก ควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ หรือ ดื่มน้ำเพื่อขับล้างสารพิษจากการสูบบุหรี่ให้หมดไป และได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำอย่างต่อเนื่อง
- ทานวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น กรดโฟเลต ธาตุเหล็ก วิตามิน รับประทานอาหารที่มี วิตามินบี 6 วิตามินบี 12
- อาจเกิดจากเครื่องมือทันตกรรมต่างๆ เช่น จัดฟัน ควรมีขี้ผึ้งจากคลินิกทันตกรรมทาเพื่อลดการเสียดสี และไม่เกิดแผลในปากตามมา
- หากสังเกตุว่าตัวเองมีอาการผิดปกติมาก เช่น ปวดแสบร้อนในปากมากเกินไป ไม่สามารถทานอาหารได้เลย มีแผลในปากมากกว่า 2 สัปดาห์แต่ยังไม่หายได้เอง ควรไปพบแพทย์