7 วิธีกำจัดสิวหัวดำ สิวเสี้ยน ป้องกัน และ รักษา ไม่กลับมากวนใจ !

เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหาสิว เสี้ยน หัวดำ เป็นปัญหาที่ก่อกวนใจมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้ามัน รูขุมขนกว้าง มักมีสิวหัวดำหรือสิวเสี้ยนเกิดขึ้น มักใช้เวลานานมากกว่าสิวปกติ กว่าสิวเหล่านี้จะหลุด หลายคนกลุ้มใจกับเรื่องนี้มาก ตั้งแต่วัยรุ่น จนวัยผู้ใหญ่ บางคนยังมีสิวเหล่านี้เกิดขึ้น จะมีวิธีป้องกัน และรับมือกับมันอย่างไร หากเกิดขึ้นกับเรา วันนี้ทางเรามีวิธีรับมือกับสิวมาแนะนำ

สิวหัวดำคืออะไร   สิวหัวดำ คือ สิวที่มีขนาดเล็ก เกิดการอุดตันในรูขุมขน ผิวหนังมีแบคทีเรีย มีการสะสมของผิวหนังที่เสีย ผิวหนังที่ตายแล้ว เกิดการสะสมบนผิวหนัง ไม่มีการขับออก เกิดการสะสมเชื้อโรค มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆดำๆ หัวเเข็ง บีบยาก บีบไม่ออก เมื่อสัมผัสจะรู้สึกมีตุ่มนูน ฝังอยู่บนผิวหนัง มักเกิดขึ้นที่ใบหน้า ริมผีปาก หน้าผาก คาง แก้ม หน้าอก บริเวณหลังเป็นต้น

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหัวดำ

• กรรมพันธ์ุ ครอบครัวมีประวัติเกิดสิว
• ช่วงวัย เกิดการเปลี่ยนแปรงทางร่างกาย ในวัยหนุ่มสาว เข้าสู่วัยรุ่น
• มีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติในผู้หญิง
• มีการเปลี่ยนแปรงเกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปรง ปรับเปลี่ยน ร่างกายมีการผลิตไขมันมากขึ้น ทำให้ใบหน้าเกิดความมัน
• ความเครียด หรือ การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
• ฝุ่นละออง มลภาวะ สภาพอากกาศ เช่น ใบหน้าเจอฝุ่นละอองจากภายนอก ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียบนใบหน้า หรือ จากแสงแดดที่แรงจ้า
• การใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ไม่เหมาะสมกับใบหน้า ทำให้เกิดการกระตุ้นการเกิดสิวมากขึ้น
• การทานอาหารที่มีไขมันสูง ก่อนมีประจำเดือน
• เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
• โรคบางชนิด ทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ

กำจัดสิวหัวดำ สิวเสี้ยน รับมืออย่างไร

1.ไข่ขาวดิบ

การใช้ไข่ดิบ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้กัน วิธีธรรมชาติที่ได้ผล ไข่ขาวดิบ สามารถช่วยกระชับรูขมขนให้เล็กลง ช่วยขจัดสิ่งปกปรกบนใบหน้า

วิธีทำ

1. ไข่สองใบ เอาแต่ไข่ขาว ไม่เอาไข่แดง  จากนั้นตีไข่ขาวให้ละเอียดจนเกิดฟอง
2. จากนั้น ทาให้ทั่วใบหน้า เน้นบริเวณที่มีสิวเสี้ยน สิวหัวดำ ทิ้งไว้ 10 นาที หรือ จนกว่ารู้สึกว่ามันแห้งจนสามารถลอกได้ ระหว่างที่เราลอกไข่ขาวออกจะรู้สึกว่ามีสิ่งสกปรก สิวเสี้ยน สิวหัวดำหลุดออกมา เป็นวิธีที่นิยมใช้กัน ทำง่าย

 2.น้ำผึ้ง+ไข่ขาว

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้าได้  ลดสิว ส่วนไข่ขาว ช่วยกระชับรูขมขนของเราให้เล็กลง ขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าเมื่อนำสองอย่างนี้มารวมกัน

จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความมัน ผิวสวยใส ขจัดฝุ่นและความมันบนผิวหน้า

วิธีทำ

1. นำไข่ขาวมา 2 ใบ เอาแต่ไข่ขาว ไม่เอาไข่แดง+น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ตีให้เนื้อเข้ากัน
2. จากนั้นนำมาฟอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3. สูตรนี้ช่วยบำรุงผิว สามารถช่วยลดสิวต่างๆได้อย่างดี ลดความมันบนใบหน้า

3.ว่านหางจระเข้ 

ในเนื้อของว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาสิว ลดรอยด่างดำ ช่วยลดการอับเสบของผิว บำรุงผิว เพิ่มความชุมชื้น ทำความสะอาด  รูขมขน ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ ช่วยรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ   ที่อ่อนโยนต่อสุขภาพผิว

วิธีทำ 

1. นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกออก ล้างด้วยน้ำเปล่า ปั่นให้ละเอียดให้ได้ประมาณ1ถ้วย
2. นำมาทาบริเวณที่มีสิวหัวดำ สิวเสี้ยน หรือหากต้องการเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ใบหน้า ควรทาให้ทั่วใบหน้า
3. ควรทำก่อนนอน ทาว่านหางจระเข้แล้วไม่ต้องล้างออก ตื่นเช้ามาจะสัมผัสถึงความนุ่มชุ่มชื่นของใบหน้า หากทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าสิวหายอย่างแน่นอน

4.มะเขือเทศ

มะเขือเทศ อุดดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากการทาน มะเขือเทศให้มีผิวดี ผิวสวยแล้ว มะเขือเทศยังสามารถรักษาสิวได้ด้วย ซึ่งอุดรมไปด้วยวิตามีซี และเอ เราสามารถนำมะเขือเทศมาสครับผิวได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวของเรา เป็นอีกหนึ่งวิธีกำจัดสิวเสี้ยน วิธีทำก็ง่ายๆ ไปทำกันเลย

วิธีทำ

1. มะเขือเทศที่สุกเต็มที่ 2 ลูกใหญ่ นำมาหั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด
2. จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า เน้นบริเวณสิวหัวดำ สิวเสี้ยนต่างๆให้ทั่วหน้า
3. พอกหน้าประมาณ 40-50 นาที แล้วตามด้วยการล้างออกด้วยอุ่น
4. ควรทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง อย่างน้องสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะเห็นผลลัพธ์ หน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิวกวนใจเลยจ้า

หลายคนคงรู้จัก วาสลีนเป็นอย่างดี เอาไว้ใช้ทาริมฝีปากให้ไม่แห้ง นอกจากนี้ วาสลีนยังสามารถ ลอกสิวเสี้ยน สิวหัวดำๆอีกด้วย ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ โดยส่วนมากสิวหัวดำ มักจะเกิดขึ้นบริเวณจมูกใช่ไหมละคะ ไปดูวิธีกำจัดสิวหัวดำ สิวเสี้ยนด้วยวาสลีนกันเลย

วิธีทำ

1. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพื่อความพร้อมของผิว
2. ทาวาสลีนเน้นบริเวณที่มีสิวเสี้ยน สิวหัวดำให้มาก ใช้นิ้วมือนวดบริเวณนั้น
3. จากนั้นนำพลาสที่ใช้แรปสำหรับห่ออาหาร มาแปะทับที่จมูก และบริเวณที่มีสิวเสี้ยน สิวหัวดำ ใช้นิ้วมื้อเน้นบริเวณนั้น
4. ผ้าขนหนูสะอาด ชุบน้ำอุ่นมาแปะทับไว้ชั้น ให้เกิดอุณหภูมิความร้อนเกิดขึ้น เหมือนเราอบไอน้ำให้กับใบหน้า
5. ทิ้งไว้ประมาณ 30  นาที หลังจากนั้น ดึงผ้าขนหนูและพลาสติกออก ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดออก หากสิวเสี่ยน สิวหัวดำยังไม่ออก สามารถนำสำลีกดทับข้างจมูก ใช้นิ้วบีบสิวเสี้ยนออกได้เลย เพราะวิธีจะทำให้เกิดการขยายรูขมขน จึงทำให้การบีบสิวเหล่านี้ง่ายขึ้น

เบกกิ้งโซดา เป็นอีกวิธีที่สามารถทำง่ายๆที่บ้าน หากไม่มีก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ เป็นอีกวิธีที่สามารถกำจัดสิวหัวดำ สิวเสี้ยน ได้ง่ายๆที่สาวๆควรลอง เบกิ้งโซดาสามารถสครับผิว สามารถช่วยให้ผิวนุ่มเนียน สิวเสี้ยน สิวหัวดำหลุดออกง่าย ผิวเนียนใส ไรกังวลเรื่องสิวอีกต่อไป

วิธีทำ

1. ล้างหน้าให้สะอาด
2. นำเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าจนได้เนื้อที่ข้น
3. ทาลงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน สิวหัวดำ หรือใครอยากให้หน้าใส ก็สามารถทาทั่วใบหน้าได้
4. ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
5. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นๆ
6. ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จนกว่าสิวเสี้ยนจะหลายไปแล้วหน้าจะใสแบบไร้สิว

ในสูตรนี้ เกลือ สามารถสครับผิว ส่วนมะนาว ช่วยในเรื่องผลัดผิวเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว สามารถจัดการเรื่องสิวได้ ส่วนน้ำผึ้ง ช่วยในเรื่องฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า ช่วยให้ผิวนุ่มนวน หน้าสะอาดใส ผิวเนียน เป็นสูตรที่หาได้จากครัว เชื่อว่าหลายๆบ้าน มีสิ่งนี้ติดครัวอย่างแน่นอน โอ้เป็นสูตรที่ลงตัวจริงๆเลย

วิธีทำ

1. เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1ช้อนโต๊ะ ส่วนผสม 1:1
2. นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกให้เข้ากัน
3. นำมาพอกให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ 20 -30 นาที
4. หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น
5. ควรทำ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน จนกว่าสิวจะหายหมด

ป้องกันการเกิดสิวหัวดำ สิวเสี้ยน

1. ล้างหน้าก่อนนอน ด้วยด้วยผลิตภัณฑ์ ที่มีกรดซาลิไซลิก โปรดสังเกตุ ผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ทำความสะอาดใบหน้า มีกรดซาลิไซลิกหรือไม่ เพราะในกรดซาลิไซลิกสามารถรักษาสิวเสี้ยน สิวหัวดำ หรือ สิวต่างๆได้ ในกรดซาลิไซลิกสามารถขจัดความมันบนใบหน้า สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า ขจัดผิวที่เสีย พลัดเซลล์ผิวที่เสียที่ตายออกไป แต่เหมาะสมกับคนที่มีผิวมันมาก หากคุณมีผิวหน้าที่แห้ง ควรใช้วันละ 1 ครั้งก่อนนอน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากเกินไป
2.  แปรงขัดผิว การใช้แปรงขัดผิวหน้า จะสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น AHAs และ BHAs ช่วยขจัดเซลล์เก่า เซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยลดการอุดตันของรูขมขน แต่มีงานวิจัยกล่าวว่า ควรใช้เป็นครั้งคราว ไม่แนะนำว่าใช้ขัดผิวทุกวัน ควรทำการล้างใบหน้าด้วยความอ่อนโยน   จะทำให้ใบหน้าเกิดการระคายเคือง สามารถขัดใบหน้าได้ สัปดาห์ละครั้ง
3. การมาส์กหน้า การมาส์กหน้า มาสก์โคลน ก่อนนอนจะสามารถช่วยทำความสะอาดใบหน้า ขจัดสิ่งสกปรก ช่วยขจัดความมันจากใบหน้า ทำให้ไม่มีความมันอุดตันรุขมขน ขจัดสารพิษจากใบหน้า การมาส์กหน้า สามารถทำได้ สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งสามารถขจัดสิวหัวดำที่ฝังลึกได้เป็นอย่างดี ผิวนุ่มอย่างน่าอัศจรรย์
4. ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดทุกครั้งก่อนเข้านอน
5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัส หลายคนเมื่อมีสิวมักใช้มือสัมผัสบ่อยครั้ง กับใบหน้าโดยไม่ได้ล้างมือ ห้ามเผลอทำโดยเด็ดขาด เพราะมือของเราบางครั้งไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อมากขึ้น

การรักษา

1. เรตินอยด์ (Retinoids) มักใช้ในการรักษาสิว มีประโยชน์สามารถรักษาสิวหัวดำ สิวเสี้ยน ช่วยในการเปิดรูขมขนให้ทำงานได้ดีมากขึ้น  มักอยู่ในรูปแบบชนิดทา หากมีผิวที่แห้งไม่แนะนำ เพราะอาจทำให้ระคายเคืองต่อผิวที่บอบบาง
2.  กรดซาลิไซลิก (salicylic acid) ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก เพราะซาลิไซลิกสามารถ ผลัดเซลล์ผิว  ช่วยลดการอุดตันของรูขมขน ขจัดไขมัน สิ่งปกปรกที่ตกค้างออกไป สิ่งที่สะสมบนใบหน้าฝุ่นละอองต่างๆ ทำให้เกิดความมัน นั้นคือสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหัวดำตามมา แต่ข้อความระวังคือ ผิวที่บอบบางไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวแห้งมากขึ้น หรือ บางคนอาจมีอาการแพ้
3. การทำเลเซอร์ขน  การทำเลเซอร์ นี่คือวิธีที่เห็นผลเร็วมากที่สุด เพราะสามารถทำความสะอาดผิว ลดการอักเสบของผิว เลเซอร์ขนเป็นอีกทางเลือก เพื่อลดปัญหาสิวได้จริงๆ
4. บีบสิวเสี้ยน สิวหัวดำ ด้วยตนเอง หลายคนอาจเคยเป็น เวลาที่เห็นสิวบนใบหน้า คันไม้คันมือ ต้องการกำจัดมันใช่ไหมละคะ ถ้ารอให้สิวหายและหลุดเองคงใช้เวลานาน การบีบสิวด้วยตนเอง คือ นำผ้าขนหนู แล้วชุบน้ำอุ่นบีบออกพอหมาดๆ ไม่ให้เปียกมากจนเกินไป หลังจากนั้น นำผ้าขนหนูที่ มาวางที่จมูก หรือ บริเวณที่เราจะบีบ เพื่อให้รูขมขนของเราเปิดนั่นเอง หลังจากนั้นใช้คอตตอนบัต 2 อัน บนหัวสิว และข้างล่างของสิว บีบที่สิวเสี้ยน สิวหัวดำ บีบเข้าหากัน เพื่อลดความบอบช้ำ และความรุนแรงบนใบหน้า จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็นสะอาด หรือ หากใครไม่กล้าบีบเอง มีอุปกรณ์ขายตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ สำหรับบีบสิว เพื่อให้หัวสิวเปิด แล้วทาครีมที่มีกรดซาลิไซลิก และทำให้สิวแห้งและหายเร็วมากขึ้น
5. หากมีอาการรุนแรง มีสิวเกิดขึ้นเยอะมาก ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง อย่าปล่อยไว้นาน เรื่องสิว เป็นปัญหาก่อกวนใจ รีบทำการรักษานะจ๊ะ