7 วิธีรับมือเมื่อแฟนบอกเลิกกระทันหัน
การเลิกรานั้นคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ความสับสน อกหัก ความโศกเศร้า เสียใจมากเหมือนโลกทั้งใบแตกสลาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปฏิกิริยาปกติเมื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์ แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะจบลงด้วยดี หรือบางคู่อาจจบลงด้วยไม่ดีก็ตาม แต่คุณก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
การเลิกรากะทันหัน อาจทำให้คุณรู้สึกแย่มาก ความรู้สึกเจ็บปวด หรือบางครั้งเกิดขึ้นจากการที่คุณไม่ได้เตรียมตัว เตรียมใจ และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ถึงแม้ตอนนี้จะดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น แต่คุณต้องผ่านมันไปให้ได้ ให้ความสำคัญกับตัวเอง เวลาเท่านั้นที่จะเยียวยาทุกสิ่ง คุณจะกลายเป็นคนที่เข้มแข็งในที่สุด แต่คุณจะรับมืออย่างไรกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับคุณอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไรให้เป็นปกติเร็วที่สุด ไปอ่านบทความนี้กันค่ะ
1.บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ร้องไห้ได้แต่อย่าเสียใจนาน
รักกันอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็จบลงโดยที่ไม่ทันตั้งตัว หลายคนที่เคยอกหักคงเข้าใจอาการแบบนี้มันเป็นอย่างไร เหมือนโลกมันเดียวดาย ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ความรักจบไปแล้วจะมูฟออนได้เร็ว อาจจะร้องไห้ฟูมฟายอยู่สักพัก ให้เขาใจว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา ไม่มีใครที่จะสุข และทุกข์ไปตลอด ชีวิตเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนจริงๆ ให้ลองหายใจเข้าลึกๆ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล
หลังจากการเลิกราทันที อารมณ์ของคุณอาจปั่นป่วน และยากที่จะมีสมาธิ พยายามทำจิตใจให้ผ่องใส และคิดถึงแต่ลมหายใจ ลมเข้า ลมออก ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสงบลงเล็กน้อย แม้ว่าคุณจะไม่อยากเก็บกดอารมณ์ หรือความคิดเกี่ยวกับการเลิกรา แต่คุณไม่ควรปล่อยให้พวกเขามากำหนดความรู้สึก และสิ่งที่คุณทำกับชีวิต ตั้งสติหาอย่างอื่นทำไม่ให้คิดฟุ้งซาน อาจทำตัวให้ยุ่งกับงาน หรือเบียงเบนความสนใจไปทำอย่างอื่น เสียใจได้แต่อย่าให้เขามาทำร้ายความรู้สึกเรานาน
2.ยอมรับ เคารพการตัดสินใจของกันและกัน
ใช่อยู่ในช่วงแรกที่เลิกกันใหม่ๆ อาจจะยากที่จะยอมรับและทำใจได้ ช่วงที่เลิกรากันใหม่ๆ คุณอาจยังต้องการติดต่อกับแฟนเก่า แต่เขาไม่ต้องการการติดต่อใดๆ คุณจำเป็นต้องเคารพในสิ่งนั้น อย่าโทร ส่งข้อความหรือขอให้เพื่อนคุยกับพวกเขาแทนคุณ ขอให้ยอมรับ และเคารพการตัดสินใจของกันและกัน เพื่อที่คุณจะได้เดินหน้าต่อไป
3.งดติดต่อกับแฟนเก่า หรือบล็อกไปเลย
เข้าใจอยู่การเลิกรากันใหม่ๆ แผลยังสด ใครพูดถามอะไรนิดๆหน่อยๆน้ำตาก็ไหลแล้ว แต่วิธีที่ทำใจได้เร็วที่สุดคือ การหยุดพูดคุยกับเขา ซึ่งหมายความว่าไม่มีการส่งข้อความ ไม่มีการโทร และไม่มีการส่งข้อความ หรืออีกทางคือบล็อกเขาไปเลย ให้เวลาตัวเองในช่วงเวลาทำใจสักพัก ให้แผลใจที่บอบช้ำมันหายดี
แต่มีเหตุผลเดียวที่คุณควรติดต่อเขาก็คือจำเป็นต้องปฏิบัติตามความรับผิดชอบร่วมกัน เช่น การเลี้ยงดูบุตรร่วมกัน
4.ให้เวลาตัวเองได้อยู่กับความเสียใจ
จะทำอย่างไรเมื่อเขาเลิกรากับคุณกระทันหัน การเลิกราคือความสูญเสีย และเป็นการดีที่จะปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเสียใจจากการเริกราทันที ให้เวลากับหัวใจตัวเองบ้าง แต่ถ้าร้องร้องไห้ ร้องไห้พอกับความเสียใจ อย่ากลัวที่จะปล่อยวางและสัมผัสอารมณ์ของตัวเองในขณะนั้นจริงๆ คุณจะรู้สึกดีขึ้นถ้าทำเช่นนั้น
แต่อย่าหมกมุ่นกับความเสียใจ จนไม่ยอมกินข้าวปลา จำไว้ว่าความโศกเศร้านั้น แตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้นอย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ไม่มีใครนอกจากคุณรู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะผ่านพ้นไปได้ ขณะที่คุณกำลังโศกเศร้า จงใจดีกับตัวเอง ยอมรับว่าคุณกำลังเสียใจ และอาจไม่มีพลังงาน หรือสมาธิทำอย่างอื่นได้ หากคุณจำเป็นต้องหยุดงาน หรือหยุดไปโรงเรียนสักวันหนึ่ง ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
5.เขียนบัญทึกความรู้สึกลงในสมุด
การเขียนช่วยให้คุณระบายความรู้สึก และทำใจกับสิ่งต่างๆ ได้ การจดบันทึกเป็นวิธีที่ดีในการระบายความคับข้องใจ และความสับสนในแบบที่ไม่ทำร้ายใคร มันช่วยให้คุณระบายความเศร้าโศกของตัวเอง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ และจุดจบของมันอีกด้วย หลังจากการไตร่ตรอง มีเวลาให้กับตนเองมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปคุณอาจเปิดอ่านบทความนี้คุณจะบอกกับตัวเองว่า คุณเก่งและเเข็งแกร่งมากที่ผ่านมันมาได้
6. พักจากโซเชียลมีเดียสัก 2-3สัปดาห์
การเว้นระยะห่าง พักจากโซเชียล การหยุดพักจากการส่งข้อความ หรือแม้แต่การโพสเศร้าจากการเลิกรา เพราะในโลกออนไลน์ เราโพสอะไรออกไปแล้ว เพื่อนๆที่อยู่ในนั้นจะรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าป่าวประกาศ โลกออนไลน์นั้นน่ากลัว
การงดใช้โซเชียลมีเดีย จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการโพสต์สิ่งที่ไม่ควรป่าวประกาศให้ดลกรู้ ความโกรธ และความขุ่นเคืองเป็นเรื่องปกติของความโศกเศร้า ใช่อยู่ที่บางคนจะใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อระบายความคับข้องใจแต่บางครั้งก็เป็นดาบสองคมได้ ควรออกไปเที่ยวนอกบ้าน หรือออกจากห้อง สามารถช่วยให้คุณเริ่มฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
7.เล่าให้เพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัวฟัง
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คุณควรโทรหาครอบคัว หรือเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ ระบายความในใจให้เขาฟัง และเขาจะคอยช่วยเหลือให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาที่โศกเศร้าได้
คุณอาจคิดว่าการพูดถึงการเลิกรา การระบายให้คนที่คุณไว้ใจได้ฟัง จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง แต่จริงๆ แล้วกลับตรงกันข้าม การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการพูดคุยกับบุคคลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มแนวคิดในตนเอง และลดความรู้สึกเศร้าและความเหงา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือมันช่วยได้ หากคุณมีปัญหาในการปล่อยวางหลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์ หรือถ้าความโศกเศร้าของคุณกลายเป็นความรู้สึกสิ้นหวังและสิ้นหวัง หรือคุณอาจปรึกษาจิตแพทย์ได้