17 เคล็ดลับเที่ยวเวียดนามที่คุณต้องรู้ V เรื่องแปลกที่อาจไม่ชิน
เวียดนาม เป็นประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน ด้วยสภาพอากาศที่ดี ค่าครองชีพไม่สูงมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ในทุกๆประเทศ มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป ภายใต้รอยยิ้มของชาวเวียดนามที่น่ารักนั้น มีธรรมเนียมหรือนิสัยบางอย่างที่นักเดินทางอย่างเรา ๆ อาจแปลกใจ ทางผู้เขียนได้มีโอกาสไปท่องเที่ยว และอยู่ทีนั่นเป็นเวลา 1 เดือน ประเทศเวียดนามมีความเจริญอย่างเห็นได้ชัด มีอาหารที่หลากหลาย อาหารทะเลเยอะมาก มีตึกสูงจำนวนมากที่ก่อสร้างยังไม่เสร็จ โรงแรมสวยงามผุดขึ้นอย่างมากมาย หากคนไทยเที่ยวที่นั่นแถบแยกไม่ออกเลย ว่าคนไทย หรือคนเวียดนาม หลายคนมักพูดภาษาเวียดนามอัตโนมัติ เพราะคิดว่าเป็นคนเวียดนาม ทางผู้เขียนอยากเล่าถึงประสบการณ์โดยตรง ตั้งแต่เตรียมตัว ไปจนถึงการเดินทางไปที่นั่น มีบางสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนไปเยือนเวียดนาม
เพื่อจะได้เก็บข้อมูล ช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางที่ ไปเที่ยวเวียดนาม นี่คือเคล็ดลับการเดินทาง 17 เคล็ดลับการท่องเที่ยวเวียดนามที่คุณต้องรู้ V เรื่องแปลกที่อาจไม่ชิน เพื่อให้คุณไม่เครียดและมีเวลาเพลิดเพลินกับประเทศที่น่าสนใจแห่งนี้มากขึ้น! จากประสบการณ์ที่นำมาแชร์นี้เกิดจากการสังเกต และความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ไปอ่านกันเลยค่าาา
1. เที่ยว Vietnam (ฟรี วีซ่า) แค่อย่าลืม passort
สำหรับใครที่อยากเที่ยวเวียดนาม ข้อแรกเลยที่ต้องเตรียมคือ passort หนังสือเดินทางนั่นเอง โดยคนไทยสามารถอยู่ที่เวียดนามได้ ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่านั่นเอง แต่ควรตรวจสอบพาสปอร์ตก่อนเดินทาง เพราะ พาสปอร์ต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน ก่อนออกเดินทาง
2. ตม. มักจะถามอะไรบ้างที่เวียดนาม
ก็เข้าใจความรู้สึก หากใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศ หากผู้หญิงจะเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว หรือไปกับครอบครัว แต่ภาษาไม่ค่อยดี ตื่นเต้นสุดๆ จะผ่านไปเที่ยวได้ไหม จากประสบการณ์การเดินทางมาที่ประเทศเวียดนาม ตอบได้เลยว่า ตม. ไม่ถามอะไรเลย บอกเลยว่าชิลมาก ^_^ ทำใจสบายๆ
3. คนเวียดนามใช้เงิน ดองเวียดนาม (VND)
คนเวียดนามใช้เงิน ดอง (VND) และมีจำนวน 0 เยอะมากๆ เห็นแล้วงง ใช้ยังไง เช่น 1,000,000 VND (1 ล้านด่อง) จะเท่ากับ = 1,500 บาทไทย เมื่อแลกเป็นเงินดองแล้วรู้สึก ฉันรวยจัง
- แลกเงินบาทไทย เป็นดองในไทย นั่นก็คือ ซุปเปอร์ริชสีเขียว หรือก็คือ SuperRich Thailand นั่นเอง
- แลกจากสนามบิน จะสนามบินในไทย หรือเวียดนามก็ได้ แลกไปแค่พอใช้พอ
- หรือพกบัตรกดเงินสดระหว่างประเทศเช่น บัตร Planet SCB, บัตรกรุงไทย Travel หรือบัตร YouTrip ก็สามารถมองหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์วีซ่ากดเงินใช้ได้เลย
- ไม่ต้องแลกเงินสดล่วงหน้าจากไทยไปเยอะ ลดความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัตร ATM ของคุณสามารถกดเงินที่ต่างประเทศได้ไหม ให้โทรไปตรวจสอบและยืนยันกับธนาคาร ให้ธนาคารเปิดการใช้งาน กดเงินสดที่ต่างประเทศไทย แต่ค่าทำเนียมอาจสูงกว่าไทย ในการกดเงินแต่ละครั้ง
- หรือทำบัตร Travel ต่างๆ กับธนาคารก่อนเดินทาง
4.เวลา ปลั๊กไฟ และซิมการ์ด
ที่ไทยและเวียดนาม เวลาเหมือนกันเลย ไม่ต้องกังกลไป และที่สำคัญปลั๊กไฟ ก็เหมือนที่ไทย ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อปลั๊กแปลงไฟ ให้ยุ่งยาก
ซิมการ์ด แนะนำให้ซื้อซิมการ์ดท้องถิ่น หรือ Pocket Wi-Fi (หากคุณเพิ่งมาเที่ยวเวียดนามเป็นครั้งแรก) แม้ว่าร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ส่วนใหญ่ Wi-Fi มักฟรี (และเร็วสุดๆ) แต่การมีซิมการ์ดก็ยังจำเป็น การซื้อซิมการ์ดทันทีเมื่อมาถึง คุณสามารถจองออนไลน์ หรือซื้อที่สนามบินทันที เมื่อเดินทางมาถึง
5. ไม่ใช่ทุกคนที่พูดภาษาอังกฤษได้
อยากเที่ยวเวียดนาม แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้…. ไปเที่ยวเวียดนามได้ไหม ตอบได้เลยว่า ..ไปได้ค่ะ…เพราะผู้คนที่นั่นส่วนใหญ่ ใช้ภาษาท้องถิ่นและมีภาษาเป็นของตนเอง ใช้ภาษาอังกฤษกันน้อยมาก บางคนเท่านั้นที่พูดภาษาอังกฤษได้ ร้านค้า ร้านอาหาร บางร้านก็พูดภาษาอังกฤษได้ บางร้านก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ บางร้านใช้ภาษามือกัน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป แนะนำว่าดาวโหลดแอป Google Translate ไว้รอเลย รับรองชีวิตการเดินทางง่ายขึ้น
6. วิธีเดินทางในเวียดนาม
การเดินทางในเวียดนาม มีหลากหลายรูปแบบเหมือนไทย ในทริปที่ผู้เขียนอยู่เวียดนามคือ เลือกใช้แกร็บแท็กซี่ในเมืองส่วนใหญ่ในเวียดนาม สามารถเดินได้อย่างน่าประหลาดใจ แต่ก็ดีเสมอที่รู้ว่าคุณมีทางเลือกอื่น เมื่อคุณเหนื่อยเกินกว่าจะเดิน (ยังไงก็ตาม หากเดินเป็นเวลานานควรสวมใส่รองเท้าผ้าใบใส่เที่ยวที่น่ารัก ๆ จะสะดวกกว่าเวลาเดิน)
วิธีเดินทางในเมืองมีหลายวิธี เช่น แท็กซี่ รถประจำทางท้องถิ่น รถสามล้อถีบ หรือแม้แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และสุดท้ายเช่ารถมอไซส์ ขับเองเลย ตัวเลือกทั้งหมดข้างต้นโดยทั่วไปค่อนข้างถูก แต่อย่าลืมตกลงราคาคงที่กับคนขับล่วงหน้า คนขับแท็กซี่เวียดนามฉาวฉ้อโกงนักท่องเที่ยว!
วิธีที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงความไม่พึงประสงค์นี้ คือการใช้แกร็บแท็กซี่แทน Grab เป็นบริการยอดนิยม ใช้บริการ taxi จะชาร์จราคาแบบโหดเลยแหละ ใช้แกร็บแท็กซี่ดีกว่า
- การเดินทางด้วยรถไฟ เช่น เดินทางจากดานัง ไปเมืองเว้ ผู้ใหญ่คนละประมาณ 100 บาท หากเด็กราคาประมาณ 57บาท เป็นแบบห้องแอร์ และเบาะดีกว่า ถ้าพัดลมราคาก็จะถูกลงกว่า
- ใช้งาน แอปพลิเคชัน klook เพราะแอป klook มีบริการที่น่าสนใจ ทั้งรถรับส่งสนามบิน รถรับระหว่างเมือง หรือแบบทัวร์ ตามที่สะดวกค่ะ
- เช่ามอไซส์ขับเอง อาจดูอันตรายไปหน่อย ดูลุย ๆ แต่คุ้มค่ามาก เพราะผู้เขียนก็ใช้บริการเช่ามอไซส์ด้วยละค่า วันละ 150 บาท24 ชั่วโมง สามารถเห็นทุกซอกซอย วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ที่สำคัญใส่หมวกกันน็อค บีบแตรเยอะๆ บีบแตรทุกซอย เพื่อให้ปลอดภัยของชีวิต
7. ควรพิจารณา ประกันภัยการเดินทาง
แม้ว่าเวียดนาม จะเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัยในการเยี่ยมชม แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ทุกเมื่อ และนั่นไม่ได้รวมถึงการลักเล็กขโมยน้อยเท่านั้น อาหารเป็นพิษ ได้รับบาดเจ็บระหว่างกิจกรรมผจญภัยในสถานที่ต่างๆ ทำของมีค่าหาย หรือแม้แต่ตกเครื่องบิน เป็นเพียงบางส่วนที่สามารถทำลายทริปเวียดนามของคุณได้
8. กาแฟที่เวียดนาม อร่อย และราคาถูก
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ กาแฟเวียดนาม เวียดนามถือเป็นประเทศผลิต และส่งออกกาแฟมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลกเลยแหละ ไม่ว่าจะเที่ยวเมืองไหนๆ มีร้านกาแฟเยอะมากๆ กาแฟกลายเป็นวัฒนธรรมของคนเวีดยนามไปแล้ว รสชาติที่หอม เข้มข้น อร่อย เชื่อว่าทุกคนที่ได้ดื่มกาแฟเวียดนาม จะชอบและติดใจแทบทุกคน ร้านกาแฟเปิดแต่เช้า ไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว แถมราคาไม่แพงอีกด้วย ก่อนกลับบ้านอย่าลืมซื้อกาแฟเป็นของฝากด้วยน๊าา
- กาแฟเริ่มต้นแก้วละ 10313.90 VND = 15 บาทขึ้นไป++
- ร้านกาแฟสมัยใหม่สูงถึงแก้วละ 30941.71 – 48131.55 VND = 45 -70 บาท (ราคาอาจขึ้นลงนิดหน่อยตามค่าเงินปัจจุบัน)
9. การซื้อของ การทานอาหาร ควรซื้อร้านที่มีราคาติดป้ายไว้ หรือ มินิมาร์ทจะดีกว่า
เนื่องจากที่เวียดนาม โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะใช้ภาษาเวียดนามสื่อสารกัน ทำให้เรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ร้านค้าทั่วไป จะไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกัน การสื่อสารอาจผิดพลาด และสื่อสารเรื่องเงินที่คลาดเคลื่อน แต่บางครั้งในมินิมาร์ทก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เช่นกัน แต่ยังดีที่จำนวนเงินจากจอเครื่อง ผิดกลับร้านค้าที่ไม่มีเครื่องคิดเงิน และบางครั้งชอบมาเช็ค และหยิบเงินในกระเป๋า ไปโดยที่เราก็ไม่รู้ว่าราคาจริงๆ ของสินค้านั้นเท่าไหร่
แบงค์ที่ใช้เวียดนาม มีเยอะมาก ไม่มีเหรียญเหมือนไทย จะจ่ายเงินซื้อของแต่ละครั้งควรมีสติให้มากๆ ขอเวลาให้ได้คิด ย่ำว่าอย่าให้คนอื่น ๆ หรือ แม่ค้า มาหยิบเงินเราไปช่วยนับ เพราะผู้เขียนเคยเจอมาแล้ว จนรีบปิดกระเป๋าเงินไว้ หากซื้อของที่ตลาด หรือร้านค้าที่ไม่มีป้ายบอกราคา แม่ค้าจะบอกราคาสูงๆ ไว้ก่อนเลย หากรู้แล้วว่าราคาสูงเกินไป ควรบอกว่ายังไม่ซื้อ และลองเดินจากไป ราคาจะลดลงอย่างทันที พอเราเดินจากไป ราคาจะค่อยๆ ลดลงมาเองเรื่อยๆ เราควรต่อ ต่อไปเลย ต่อจนกว่าจะได้ราคาที่เราพอใจ ^_^
ฉะนั้นเพื่อความสบายใจว่าราคาที่ได้นั้น จะได้ราคาปกติของคนเวียดนามไหม ? ให้สอบถามราคาก่อนซื้อทุกครั้ง ถ้าราคาไม่โอเค ก็แค่เดินไปจากไป… เข้าร้านมินิมาร์ท จะแสดงราคาที่เราเห็น สบายใจกว่าเนอะ แต่หากใครไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆก็โอเค
10. อาหารเวียดนาม
ขอบอกเลยว่า อาหารที่เวียดนามนั้นมีเยอะมากๆ จริงๆ ทั้งริมถนน ทั้งในร้านอาหารดีๆ โดยส่วนมาก อร่อย อาหารบางเมนูอาจจืด แต่ดีต่อสุขภาพจริงๆ อาหารส่วนใหญ่ขึ้นชื่อของเวียดนามคือ เฝอ เส้นที่นุ่มนเป้นเอกลักษณ์ เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ และขนมปังญวน ขนมปัง ส่วนน้ำที่คนเวียดนามชอบดื่มกัน แทบทุกร้านเมื่อเดินข้างถนน จะเห็น น้ำอ้อยสด บางร้านผสมน้ำมะนาวเข้าไปด้วย อร่อยเชียวละ คนเวียดนามชอบดื่มกัน และนั่งริมถนน ที่กล่าวมาที่เวียดนามหาซื้อได้ง่าย มีราคาที่ไม่แพง อร่อยมากด้วย
แนะนำ : ควรเลือกร้านที่มีป้ายบอกราคา ทานร้านที่มีคนเวียดนามทานเยอะ ๆ หากไม่มีป้ายให้ถามราคาก่อนซื้อทุกครั้ง ขอย้ำเรื่องนี้
11. ระวังการหลอกลวง
การเดินทางที่เวียดนามที่สำคัญที่สุดคือ การหลอกลวง การหลอกลวงมีมากมายในเวียดนาม และมากยิ่งขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ฮานอย เชื่อว่าทุกคนไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นัก กับการถูกหลอก เพราะผู้เขียนแน่ใจว่าคุณก็เช่นกัน วิธีที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงความรู้สึก คืออย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น แม้จะพูดง่ายกว่าทำ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางในที่ต่างถิ่น ต่างดินแดนที่ไม่คุ้นเคย !
เช่น ผู้เขียนเคยจองโรงแรมแต่!! ห้องพักไม่ตรงปก ภายในห้องพักมีกลิ่นอับชื้น เป็นห้องพักที่รีวิวดี เป็นห้องที่พักที่แรกที่ผู้เขียนไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าเป็นไปได้ควรขอตรวจสอบห้องก่อน
เคล็ดลับแรกของเวียดนามที่คุณต้องรู้คือ การจองทัวร์ หรือการเดินทางผ่านเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงก่อนล่วงหน้า ขอแนะนำแอป Klook เป็นการส่วนตัว และจองทัวร์ส่วนใหญ่ผ่านพวกเขา พวกเขามีตัวเลือกมากมายในราคาที่สมเหตุสมผล การเลือกทัวร์ที่สมบูรณ์แบบง่ายขึ้นมาก
เรื่องแปลกที่อาจไม่ชิน (เวียดนาม)
12. เสียงแตรดัง บีบแตรใส่กันเป็นเรื่องปกติ
รถที่เวียดนาม แตกต่างจากไทย ตรงข้ามกันเลย (พวงมาลัยจะอยู่ทางซ้าย ขับรถเลนขวา) เวลาจะข้างถนนให้คิดแตกต่างจากไทย มองซ้ายก่อนขวาเสมอ หากใครที่ยังไม่เคยมาที่นี่ อาจจะตกใจเสียงแตรรถ ที่ดังอยู่ตลอดเวลา เพราะผู้เขียนก็แปลกใจ และตกใจแบบสดุ้งเลยแหละ บีบกันแบบไม่มีลิมิต บีบอยู่นั่นแหละ ไม่ชินเลยจริงๆ กับเสียงแตรรถ ทั้งรถยนต์ รถมอไซค์ เป็นเรื่องปกติของคนที่นี่ ขับรถแบบอิสระ ชิลมากเลยแหละ อยู่ไปสักพักก็ชินเองแหละค่า
13. การข้ามถนน
การข้ามถนนที่นี่น่ากลัวสุดๆ… ฉันจะโดนรถเฉี่ยวชนไหมเนี้ย… ขนาดข้ามทางคนเดิน รถยนต์ และมอไซด์ต่างขับอย่างลื่นไหล เหมือนผู้เขียนกำลังเดินผ่านฝูงปลาขนาดใหญ่ ที่กำลังปลาแหวกว่ายอย่างลื่นไหล…บางเมืองบางพื้นที่ขึ้นสัญญาณไฟสีเขียว ให้คนข้าม แต่มอเตอร์ไซค์ยังขับแบบไม่หยุดรอให้คนข้าม น่าจะเป็นวัฒนธรรมการขับรถที่ประเทศเวียดนามที่ใครจะเลี้ยวก็เลี้ยว ซ่อกแซ่กได้ตามใจชอบ
เอาละ Strong เข้าไว้ไม่ต้องกลัว มองซ้าย มองขวา หากข้ามถนนไปแล้ว อย่าหยุด เดินข้ามไปเรื่อยๆ เดินข้ามถนนไปเลย รถเหล่านั้นจะขับช้าลงให้คุณเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง อย่าตกใจไป…บางครั้งไม่มีอะไร แค่บีบแตรรถ เพื่อให้ทราบว่าจะมีรถ ให้ระวัง ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ยังไงผู้เขียนก็ยังไม่ค่อยชินอยู่ดี ยังไงก็ระวังเป็นพิเศษด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัย รถมอไซค์ที่เวียดนามเยอะมาก ๆ จริง ๆ
14. ผู้ใหญ่ขี่มอไซด์ใส่หมวกกันน็อค ยกเว้นเด็ก
ผู้เขียนได้เช่ารถมอไซด์เองที่เวียดนาม เมืองดานัง ราคาต่อวันประมาณ 150 บาท 24 ชั่วโมง ขอบอกว่าเมืองนี้รถมอไซด์เยอะมากจริงๆ แต่เรื่องที่แปลกใจก็คือ ตอนที่เช่ารถมอไซด์ ร้านเช่ารถบอกว่า ให้หมวกกันน็อคผู้ขับและผู้ซ้อน เลยถามว่าแล้วเด็กต้องใส่หมวกกันน็อคไหม คำตอบที่ได้คือ เด็กไม่ต้องใส่หมวกกันน็อคก็ได้ แต่ผู้ใหญ่ต้องใส่หมวกกันน็อค 100 % ทั้งผู้ขับและผู้ซ้อน และสังเกตเห็นว่าเด็กที่อยู่บนรถมอไซด์ มีเพียงหมวกแก๊ปป้องกันแสงแดดแค่นั้นเอง เลยแปลกใจ
15. คนเวียดนามชอบนั่งเก้าอีกไม่สูง
ผู้คนที่เวียดนาม ชอบนั่งเก้าอีกไม่สูงมาก ส่วนใหญ่จะเห็นได้จากริมฟุตบาทเป็นส่วนใหญ่ ทานอาหารริมฟุตบาท มองผู้คนเดินผ่านไปมา นั่งชิวๆ ทานอาหารริมถนน จิบเบียร์ พบปะพูดคุย นั่งชิลล์มองคนเดินผ่านไปมา ส่วนในร้านอาหารใหญ่หน่อย
การนั่งเก้าอี้ตัวเล็ก ไม่สูง นั่นเป็นเรื่องปกติของคนที่นั่น เรื่องแปลกที่สงสัย หากนั่งเก้ากี่ตัวเล็กนานๆคงปวดขาแย่เลย
16. ชอบวางเท้าบนที่สูง
ได้มีโอกาศไปขึ้นรถไฟที่ดานังไปที่เมือง เว้ เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง สังเกตุเห็นหลาย ๆ คนยกเท้าขึ้นมาวางบนเบาะ ทั้งที่มีคนนั่งอยู่รองเท้าเฉียดหัวคนนั่งหน้า …แต่ไม่เห็นคนเวียดนามพูดตอบโต้อะไร เห็นหลายคนทำกันบนรถไฟ แต่อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน อาจเป็นเรื่องปกติของคนที่เวียดนาม เเต่ผู้เขียนมองว่าแปลก และไม่ชิน
17.อย่าดื่มน้ำประปา
อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงในเวียดนามคือ การดื่มน้ำก๊อก น้ำประปาในเวียดนามไม่ปลอดภัยที่จะดื่ม และรับประกันได้เลยว่าคุณจะป่วยแน่นนอน!
หากคุณสังเกตุเห็นส่วนใหญ่ที่เวียดนาม เขาจะดื่มน้ำชากัน มีน้ำชาให้ดื่มทุกร้านอาหาร ที่คุณเข้าไปทาน
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายทริปการเดินทางทั้งหมดของคุณ ให้ซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดแทน น้ำดื่มบรรจุขวด และสามารถซื้อได้ทุกที่ ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารท้องถิ่น ไปจนถึงโรงแรมของคุณ
สิ่งที่ไม่ควรทำ ระหว่างการเดินทางที่เวียดนาม
- อย่าลูบหัวเด็ก/ลูบผมเด็ก เป็นต้น ในวัฒนธรรมเวียดนาม หมายความว่าคุณกำลังขโมยจิตวิญญาณของเด็กไป
- อย่าให้ขนมหวาน หรือดินสอ และของอื่นๆ แก่เด็ก ๆ ขณะที่คุณอยู่บนรถออกทัวร์ รถไฟ ให้ขนมกับผู้ใหญ่ที่มาด้วย หรือระหว่างการเดินทางไปเวียดนาม หากคุณมีเงินจำนวนมาก คุณสามารถบริจาคให้กับโรงเรียน ครอบครัวจะดีกว่า
- เสื้อรัดรูปผู้หญิง คุณจะไม่มีทางเห็นผู้หญิงเวียดนามโชว์ร่องอกอย่างแน่นอน!
- หากคุณได้รับเชิญไปที่บ้านของคนเวียดนาม เมื่อจะเข้าบ้านใครกรุณาถอดรองเท้า โดยปกติคุณจะเดินเท้าเปล่า หรือคุณอาจได้รับรองเท้าคีบ อย่าเสนอให้เก็บโต๊ะหลังอาหาร หรือล้างจาน พวกเขาจะทำเองเพราะถือว่าไม่สุภาพ
- ไม่ควรปฏิเสธเครื่องดื่ม หรืออาหารว่างที่คนเวียดนามจัดไว้ต้อนรับเพราะถือว่าเป็นการหยาบคายและไม่สุภาพ
- อย่าจูบในที่สาธารณะ โดยเฉพาะตอนกลางวัน! ห้ามจูบในที่สาธารณะและแม้แต่ในคืนที่โรแมนติก ชาวเวียดนามมักจะตกใจกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่แสดงความรักอย่างเปิดเผย
- ทำให้เวียดนามเสียหน้า ไม่มีอะไรเลวร้ายสำหรับคนเวียดนามมากกว่าการถูกเหยียดหยามต่อหน้าคนอื่น